ตอนนี้ประกันออมทรัพย์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประกันที่กำลังมาแรงและเป็นที่สนใจของใครหลายๆ คน แต่อย่าลืมว่าประกันแต่ละตัว ก็เหมาะกับคนที่ต่างกัน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรานั้นเหมาะกับการทำประกันออมทรัพย์หรือไม่ มาดูกันเลย

เช็คเงินในกระเป๋า 
ก่อนตัดสินใจจะทำประกันออมทรัพย์  ให้ตรวจเช็กดูกำลังของตัวเองก่อนเสมอ ซึ่งหลักการคิดความเหมาะสมในการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตนั้นไม่ควรเกิน 10 % ของรายได้ต่อปี เนื่องจากว่าถ้าจ่ายเบี้ยประกันสูง ก็จะได้จำนวนเงินเอาประกันที่สูง พร้อมจำนวนเงินที่ได้รับสูงตามไปด้วย แต่หากจ่ายเกินกำลังก็อาจทำให้เราจ่ายไม่ครบตามสัญญาได้ โดยเลือกให้พอเหมาะกับกำลังการจ่ายและเงินในกระเป๋าของเรา เพื่อที่เราจะได้จ่ายให้ครบได้ตามสัญญา

เช็กความต้องการ 
ถามตัวเองก่อนว่า อยากได้การออมเงินเป็นหลัก แต่คุ้มครองชีวิตด้วยหรือไม่ เพราะการทำประกันออมทรัพย์ เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองชีวิต ที่พ่วงการออมเงิน แต่หากความต้องการของเราเป็นด้านของการคุ้มครองอุบัติเหตุ สุขภาพหรืออื่นๆในวงเงินที่สูง ประกันออมทรัพย์ก็ไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมและไม่ตอบโจทย์กับตัวเรา

เป้าหมาย
เช็คตัวเองว่าอยากได้ความคุ้มครองระยะเวลาคุ้มครองสั้น หรือระยะยาว ตั้งใจว่าจะเก็บเงินก้อนไว้ 5 ปีแล้วค่อยเอาออกมาใช้ การเลือกทำประกันออมทรัพย์อายุกรมธรรม์ 5 ปี ก็จะเหมาะสม หรืออีก 10 ปีจะเกษียณแล้วตั้งใจทำประกันแบบสะสมทรัพย์ระยะเวลากรมธรรม์ 10 ปี เพื่อนำเงินใช้ในยามเกษียณบั้นปลายชีวิต

ความมั่นคงของบริษัท
สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่มองข้ามไม่ได้เลย นั่นก็คือควรเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ มีความมั่นคงทางการเงิน มั่นคง โดยเช็คจากประวัติ การถือหุ้นของบริษัทว่าบริษัทแม่ที่เป็นบริษัทใหญ่มีสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงมากแค่ไหน เพราะถ้าบริษัท ไม่สามารถจ่ายเงินประกันให้เราได้ ก็จะได้รับผลกระทบ และควรเลือกตัวแทนประกันชีวิตที่มีบริการหลังการขายดีด้วย จะทำให้รู้สึกอุ่นใจ ช่วยแก้ปัญหา หรือตอบข้อสงสัยในภายหลังได้

หากเราเช็คแล้วว่าเราเหมาะกับประกันออมทรัพย์ก็จัดไปเลยค่ะ ความคุ้มครองและความคุ้มค่าจากบริษัทประกันพร้อมดูแลคุณเสมอ หากคุณสนใจทำประกันออมทรัพย์สักฉบับ ออมคุ้มคุ้ม ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ที่ให้คุณคุ้มอันดับหนึ่ง ออมก็ง่าย คืนก็คุ้มยิ่งกว่า การันตีด้วยผลตอบแทนรวมสูง พร้อมลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kwilife.com/endowment